เปิดประวัติ หมออากงประกอบ กอร์ปอริยจิต ผู้ก่อตั้งร้านยาจีน กุยลิ้มฮึ้ง ปราชญา

ต้นกําเนิด “กุยลิ้มฮึ้ง” เกิดจาก นายเตียโป๊ะซ้ง เป็นชาวกวางตุ้ง เกิดที่ตําบลกวงไทฮือ ประเทศจีนซึ่งเป็นหลานขุนนางเก่าแก่ในราชวงศ์ชิงในเวลานั้น และเป็นบุตรคนที่ 4 ของตระกูลจาง เมื่อบิดาของนายเตียโป๊ะซังถึงแก่กรรม และในช่วงนั้นประเทศจีนมีปัญหาการสู้รบระหว่างหมู่บ้าน นายเตียโป๊ะซ้งจึงหลบหนีสงครามการสู้รบไปอาศัยบนภูเขาแห่งหนึ่งในประเทศจีน ขณะนั้นก็ได้พบ กับผู้ป่วยที่บาดเจ็บจากสงครามเป็นจํานวนมากทําให้นายเตียโป๊ะซ้งเกิดความสนใจเกี่ยวกับการรักษาผู้ป่วยและการนําสมุนไพรมาใช้ในการรักษา ต่อมานายเตียโป๊ะซ้งได้พบกับหมอชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนภูเขา ท่านมีประสบการณ์ในการรักษาและมีตํารายาสมุนไพรจีนทําให้นายเตียโป๊ะซ้งเริ่มศึกษาเรียนรู้จากหมอชาวบ้านผู้นั้นอย่างจริงจัง

 

เมื่อหมอเตียโป๊ะซ้งมีประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับการรักษาโรคพอสมควรแล้ว หมอเตียโป๊ะซ้งจึงออกเดินทางมาประเทศไทย โดยเรือแห่บ๊วยจุ๊ง จากเมืองท่าที่ซัวเถา มาขึ้นท่าเทียบเรือ จ.สุราษฎร์ธานี ช่วงแรกหมอเตียโป๊ะซ้งไปอาศัยอยู่กับพี่ชายคนโต ทําอาชีพผลิตกาวจากกระดูกเสือ ที่นํามาใช้ทํายาจีนและต่อมาได้ย้ายมาอาศัยที่กรุงเทพมหานคร และได้ทํางานที่โกดังเก็บข้าวของ บริษัท หลี่ ตัง ล้ง หมอเตียโป๊ะซ้งได้ประกอบอาชีพกรรมกรแบกหามข้าวสาร ซึ่งในขณะเดียวกันหมอเตียโป๊ะซ้งก็ได้ทําการรักษาผู้ป่วยในโกดัง เก็บข้าวไปด้วย เถ้าแก่เห็นความสามารถ จึงให้หมอเตียโป๊ะซ้งเลิกทํางานแบกหามแล้วให้มาเป็นหมอประจําโกดังเก็บข้าวแทน เป็นหมออยู่ที่โกดังได้ประมาณ 1-2 ปีจึงได้พบกับ นางเซียง แซ่หึง

 

ต่อมาหมอเตียโป๊ะซ้ง กับนางเซียง ได้แต่งงานกัน หลังจากที่แต่งงานกัน เถ้าแก่ได้เห็นความสามารถของหมอเตียโป๊ะซ้ง เถ้าแก่จึงให้เงินจํานวน 9,000 บาท เพื่อมาเป็นทุนในการเปิดร้าน กุยลิ้มฮึ้ง แห่งนี้ หมอเตียโป๊ะซ้งนําเงิน 9,000 บาท มาเช่าบ้านบนพื้นที่ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เปิดเป็นร้านขายยาสดและรากไม้ หมอเตียโป๊ะซ้งเป็นผู้ที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ค้าขายเก่ง ทําให้กิจการเจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว ต่อมาในปี พ.ศ.2477 นางเซียงได้ให้กําเนิด นายประกอบ กอร์ปอริยจิต หรือหมออากงคนปัจจุบัน และเมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง ปี พ.ศ.2497

 

นายประกอบ กอร์ปอริยจิต มีอายุได้ 20 ปี ได้แต่งงานกับนางบุญรอด แซ่เล้า และมีลูกด้วยกัน 90 คน ในปี พ.ศ.2498 หมอเตียโป๊ะซ้ง ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจ ด้วยวัย 54 ปี จึงทําให้หมอประกอบต้องมารับช่วงกิจการต่อ ในช่วงแรกได้เปิดธุรกิจขายเหล้ายา(เหล้าที่ใส่ยา) ชื่อ “บ่วนหนี่แช” ไปด้วย แต่ต่อมาโรงงานแช่เย็นเหล้าต้องการเรียกเก็บเงินมัดจําวางค่าแช่เย็นจํานวน 400,000 บาท นายประกอบจึงเลิกทําเหล้ายา และหันมาขยายร้านยาจีนอย่างจริงจัง จึงเซ้งห้องอีกหนึ่งคูหา และซื้อตู้เก็บยาเข้ามาใหม่ นายประกอบจึงเริ่มศึกษาวิธีการรักษาโรคต่างๆ และการใช้ยาจีนในการรักษาโรคจากตําราที่ หมอเตียโป๊ะซ้ง ได้บันทึกไว้ และศึกษาเพิ่มเติมจากตําราเรียนอื่นๆ จากการสั่งสมประสบการณ์ในการรักษาคนไข้และการใฝ่หาความรู้อยู่ตลอดทําให้หมอประกอบคิดค้น ทํายาเม็ดลูกกลอนขึ้นหลายตํารับครอบคลุมในการรักษาโรคต่างๆ และด้วยผลการรักษาที่เลื่องลือ ทําให้ชาวบ้านบอกปากต่อปากจนเป็นที่รู้จักดีในนาม “หมอเทวดา” ย่านเยาวราช

 

ในปี พ.ศ.2510 เริ่มก่อตั้งกิจการขายส่งสมุนไพรจีน นําเข้าจากประเทศจีน เนื่องมาจากการพยายามคัดสรรหาตัวยาสมุนไพรพันธุ์ดี เพื่อมาใช้ประกอบเป็นยารักษาโรคให้กับคนไข้ จึงได้เกิดการนําเข้ายา และขยายกิจการเรื่อยมาจนถึง ณ ปัจจุบัน ต่อมาใน พ.ศ.2555 มีการนําสูตรยาของหมอประกอบมาพัฒนา ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น เป็นนวัตกรรมใหม่ สกัดเข้มข้น รับประทานง่ายและพกพาสะดวกในรูปแบบของแคปซูล ภายใต้แบรนด์ใหม่ที่มีชื่อว่า “ปราชญา” ซึ่งเป็นชื่อของหมอเตียโป๊ะซ้ง

 

ปัจจุบัน “ปราชญา” ได้พัฒนาสูตรตํารับยาต่างๆ ขึ้นอีกมากมาย โดยมุ่งเน้นดูแลคนไทยจากใจด้วยสมุนไพรธรรมชาติ ทั้งหมดนี้คือประวัติของร้านยาจีน “กุยลิ้มฮึ้ง” ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน